รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็ต้องมีการปรับตัวเช่นกัน สถานการณ์ New Normal
ที่เกิดขึ้นจากโรคระบาดที่เรารู้จักกันดีอย่างโควิด ทำให้เหล่านักช็อปต้องปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อเป็นการซื้อของออนไลน์ของออนไลน์
บริษัทหลายๆ แห่งจึงต้องสร้างมาตรฐานการช็อปของออนไลน์ให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้น
Shopify คือหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คำแนะนำกับเหล่าผู้ประกอบการและกิจการขนาดเล็กในการจัดการธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้มีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ Phoenix Media จะขอแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับ Shopify และแสดงวิธีการใช้แพลตฟอร์มเพื่อสร้างประสบการณ์การขายออนไลน์ของคุณให้เต็มที่
Shopify เหมาะกับใคร?
Shopify มักจะเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง แต่อันที่จริงแล้วธุรกิจขนาดใหญ่ก็สามารถใช้แพล็ตฟอร์ม Shopify ได้เช่นกัน มากไปกว่านั้น Shopify ยังมีบริการเสริมเพิ่มเติมอย่าง Shopify POS Lite และ Shopify POS Pro สำหรับคนที่กำลังมองหาระบบการขายที่ครอบคลุมและสามารถขยายตัวได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีบริการเสริมระดับพรีเมียมอย่าง Shopify Plus ซึ่งเหมาะสมกับคนที่กำลังดำเนินธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย
ถึงแม้ว่า Shopify Plus จะมีราคาสูงกว่าแต่ก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่มีให้เลือกสรรมากมายโดยเริ่มต้นที่ 2,000 ดอลลาร์ต่อเดือน เราจึงขอแนะนำว่า Shopify Plus เหมาะสำหรับบริษัทที่มีสินค้าหลากหลายและมียอดขายที่สูง และคุณจะได้รับการเข้าถึงตัวเลือกและฟีเจอร์ที่หลากหลายที่ออกแบบให้เหมาะกับความต้องการของธุรกิจของคุณ
หรือหากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจและต้องการลองสิ่งใหม่ ๆ ในโลกแห่งอีคอมเมิร์ซโดยไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย Shopify มีคำตอบให้คุณ นั่นคือ Shopify Starter ในราคาเพียงแค่ 5 ดอลลาร์ต่อเดือนเท่านั้น คุณก็สามารถสร้างเว็บไซต์และสามารถปรับปรุงระบบการขายของคุณได้
Shopify ทำอะไรได้บ้าง?
ทำไมถึงควรใช้ Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคุณล่ะ?
ตามประสบการณ์ของ Phoenix Media นี่คือฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ Shopify:
สร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานได้ง่าย: Shopify ช่วยให้คุณสร้างเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณเองได้โดยไม่ต้องมีทักษะในการเขียนโปรแกรมและที่สำคัญคุณสามารถเลือกธีมและเลย์เอาท์ได้อย่างหลากหลายเพื่อสร้างเว็บไซต์ที่เข้ากับแบรนด์ของคุณได้
การเชื่อมต่อที่ไร้ขอบเขต: หากคุณมีเว็บไซต์ WordPress อยู่แล้ว ปลั๊กอินของ Shopify จะทำให้การบำรุงระบบอีคอมเมิร์ซและกระบวนการสร้างเว็บไซต์ของคุณเป็นเรื่องที่เรียบง่าย
การเชื่อมต่อกับ Facebook Shop: คุณสามารถเชื่อมต่อกับ Facebook Shop เพื่อง่ายต่อการจัดการคำสั่งซื้อและง่ายต่อการสั่งซื้อของเหล่าลูกค้าของคุณ
ระบบการชำระเงินที่ง่ายต่อการเชื่อมต่อ: Shopify ช่วยให้คุณรับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ง่าย ๆ ลูกค้ายังสามารถทำรายการสั่งซื้อได้อย่างสะดวกอีกด้วย
จัดการระบบ backend ให้ง่ายต่อการใช้งาน: Shopify ช่วยจัดการภาวะที่ซับซ้อนของระบบ backend ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ควบคุมสินค้าจนถึงกระบวนการดำเนินการสั่งซื้อของคุณ
เลือกแพ็กเกจ Shopify ที่ใช่สำหรับคุณ
มาดูราคาในแต่ละแพ็กเกจกันเถอะ
Shopify Starter: ในราคา $5 ต่อเดือน – แพ็กเกจนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คุณสามารถเพิ่มสินค้าลงในเว็บไซต์ใดก็ได้ สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและสร้างใบเสร็จได้ และสามารถเชื่อมบัญชีของคุณเข้ากับ Facebook และแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น
Basic Shopify: ราคาเริ่มต้นที่ $19 ต่อเดือน – แพ็กเกจที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังเริ่มกิจการ มีตัวสร้างเว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตได้ และมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ เช่น การแก้ไขธีมและโพสต์บล็อก
Shopify: ราคาเริ่มต้นที่ $49 ต่อเดือน – แพ็กเกจที่มีคุณสมบัติขั้นสูงและค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ต่ำ จึงเหมาะสำหรับคนที่กำลังต้องการขยายธุรกิจ
Advanced Shopify: ราคาเริ่มต้นที่ $299 ต่อเดือน – แพ็กเกจที่ออกแบบมาสำหรับธุรกิจที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีฟีเจอร์ที่มากขึ้นแต่มีค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมที่ลดลง
Shopify Plus: ขึ้นอยู่กับการเสนอราคาโดยราคาเริ่มต้นที่ $2,000 ต่อเดือน – แพ็กเกจที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของธุรกิจขนาดใหญ่ สามารถปรับแต่งและขยายเครือข่ายของคุณได้อย่างกว้างขวาง
Shopify ใช้งานอย่างไร?
ลองมาศึกษาขั้นตอนการเปิดใช้งาน Shopify กันเถอะ เพื่อทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณดำเนินได้อย่างราบเรียบ:
- เปิดร้านค้า Shopify: เริ่มต้นโดยการสร้างร้านค้าของคุณด้วยแพลตฟอร์ม Shopify ที่ใช้งานง่าย มีมากกว่า 70 รูปแบบร้านค้าให้เลือกสรรและฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้คุณปรับแต่งแบรนด์ของคุณได้อย่างน่าสนใจ คุณสามารถลงรายการสินค้าได้อย่างไม่จำกัดจำนวน เพื่อให้ร้านค้าของคุณเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณ
- เลือกการชำระเงิน: Shopify มีตัวเลือกการชำระเงินให้คุณ 2 แบบ คุณสามารถใช้ Shopify Payments สำหรับการทำธุรกรรมด้วยบัตรเครดิต หรือคุณสามารถเลือกรูปแบบการชำระเงินที่คุณต้องการ (แต่ คุณต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติมในส่วนนี้) ทำให้คุณสามารถเลือกวิธีการชำระเงินตามที่คุณต้องการได้เลย
- เพิ่มขอบเขตในการขายของคุณ: คุณไม่จำเป็นที่จะต้องขายเฉพาะบนเว็บไซต์ Shopify ของคุณเท่านั้น คุณสามารถยิง Ads รายการสินค้าของคุณบนแพลตฟอร์มโฆษณาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Google, eBay, TikTok, Pinterest, Facebook, และ Instagram ที่จะช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
- จัดการธุรกิจของคุณ: Shopify จัดเตรียมเครื่องมือให้คุณในการบริหารธุรกิจออนไลน์ของคุณอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การพิมพ์ฉลากการส่งสินค้าไปจนถึงการจัดการสต็อกและการขายในหลาย ๆ ช่องทาง
- การเติบโตและการสนับสนุนธุรกิจของคุณ: ขณะที่ธุรกิจของคุณเติบโตขึ้น แพลตฟอร์ม Shopify จะมอบเครื่องมือที่มีมูลค่าสำหรับการทำความเข้าใจและการขยายขอบเขตการเชื่อมต่อของคุณ คุณสามารถติดตามคำสั่งซื้อ สื่อสารกับลูกค้า และสำรวจตัวเลือกเรื่องการเงินผ่าน Shopify Capital ได้
Shopify: แพลตฟอร์มที่สะดวกสำหรับผู้ขาย
Shopify เปิดให้บริการสำหรับธุรกิจที่ขายสินค้าและจัดส่งถึงมือลูกค้าและสามารถจัดการสต็อกสินค้าได้ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่มีสต็อกสินค้าจำนวนมาก ถ้าหากคุณอยู่ในอุตสาหกรรมบริการและมีการบริหารจัดการในร้านอยู่แล้ว แน่นอนว่าเรามีตัวเลือกที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Shopify หรือกำลังมองหาคำแนะนำเกี่ยวกับการออกแบบเว็บไซต์ทั่วไป สามารถติดต่อทีมงานของ Phoenix Media ได้แล้ววันนี้