สําหรับธุรกิจส่วนใหญ่ในประเทศไทย Facebook เป็นช่องทางสําคัญในการสื่อสารกับลูกค้าทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าปัจจุบัน โฆษณาบน Facebook ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายการเข้าถึงและแสดงตัวให้ลูกค้าหน้าใหม่รู้จักมากขึ้น โฆษณาเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถโปรโมตแบรนด์ของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับคู่แข่งที่ใหญ่กว่ามาก
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญการตลาดให้ดีขึ้น แพลตฟอร์มจะนําโฆษณาผ่านสิ่งที่เรียกว่าขั้นตอนช่วงการเรียนรู้โฆษณาบน Facebook นี่เป็นขั้นตอนสําคัญในการเรียกใช้แคมเปญโฆษณาที่ประสบความสําเร็จบน Facebook แต่คนมักไม่ค่อยพูดถึง แต่สามารถส่งให้เกิดผลลัพธ์เป็นอย่างดี
ช่วงการเรียนรู้ของโฆษณาบน Facebook คืออะไร
ช่วงการเรียนรู้เกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของแคมเปญโฆษณา หรือเมื่อเริ่มทําการปรับเปลี่ยนแคมเปญที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคุณสร้างแคมเปญโฆษณาโดยตั้งวัตถุประสงค์ Messenger ซึ่ง Facebook จะพยายามพิจารณาว่าใครอยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่คุณกําหนด และทำให้กลุ่มเป้าหมายมีแนวโน้มที่จะคลิกที่โฆษณาและส่งข้อความมา
เนื่องจากเป็นขั้นตอนการทดสอบ ต้นทุนต่อการดําเนินการ (CPA) มักจะมีความผันผวน แต่ข้อมูลที่สร้างขึ้นจะช่วยแจ้งขั้นตอนภายหลังเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การแสดงโฆษณาอาจต้องใช้เวลาในช่วงการเรียนรู้นี้ เพื่อปรับใช้ชุดโฆษณาที่เหมาะสมที่สุด เมื่อชุดโฆษณาเข้าถึง 50 ผลลัพธ์ ชุดโฆษณานั้นๆจะออกจากช่วงการเรียนรู้และเริ่มแสดงผลลัพธ์ที่ดีและเสถียรขึ้น

เมื่อมีการปรับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ย่อมส่งผลต่อผลลัพธ์ที่คุณคาดหวังไว้ เช่นคลิกที่ลิงก์เพื่อไปยังเว็บไซต์ของคุณ เมื่อมีการคลิกประมาณ 50 ครั้งแล้ว ขั้นตอนการเรียนรู้จะสิ้นสุดลง
Facebook จะเป็นผู้กำหนดว่าชุดโฆษณานั้นๆอยู่ในช่วงการเรียนรู้เมื่อใด นอกจากนี้ยังแจ้งให้คุณทราบ เมื่อช่วงการเรียนรู้สิ้นสุดลงผ่านคอลัมน์การแสดงโฆษณาในตัวจัดการโฆษณา (Ads Manager)
สิ่งที่ต้องทําในช่วงการเรียนรู้
เนื่องจากนี่เป็นขั้นตอนการทดสอบ จึงแนะนําให้ดําเนินการไปก่อนที่จะทําการเปลี่ยนแปลง หรือสรุปข้อสรุป เพราะการปรับเปลี่ยนใดๆที่อยู่ในช่วงของกระบวนการนี้อาจส่งผลให้ขั้นตอนต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ ซึ่งหมายความว่าจะเกิดความล่าช้ามากขึ้นในการสร้างแคมเปญของคุณ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงแบบเล็กน้อยก็อาจจะไม่ส่งผลกระทบต่อช่วงการเรียนรู้นี้เท่าไร การปรับแคมเปญโฆษณาบน Facebook ให้เหมาะสมนั้น ไม่ได้หยุดอยู่แค่ช่วงการเรียนรู้ อัลกอริทึมของ Facebook จะยังคงวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อช่วยให้แคมเปญของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมตราบเท่าที่ระบบยังทํางานอยู่ นี่อาจเป็นประโยชน์บ้าง เพราะเมื่อแคมเปญโฆษณาของคุณไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ในเวลาอันสั้น
การเรียนรู้ถูกจำกัดคืออะไร
เมื่อมีสเตตัสขึ้นว่า การเรียนรู้ถูกจำกัด ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนมาจาก Facebook ว่าชุดโฆษณานั้นๆ ไม่สามารถถูกปล่อยออกจากช่วงการเรียนรู้ได้ โดยทั่วไปหมายความว่าการดําเนินการนั้น สร้างผลลัพธ์ได้ไม่เพียงพอ อาจจะน้อยกว่า 50 ผลลัพธ์ จึงทำให้ทางระบบนั้นขึ้นแสดงข้อความนี้ หรืออีกแง่นึงก็คือ การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายนั้นแคบเกินไป รวมไปถึงงบประมาณที่ใช้ เป็นต้น

หากคุณสร้างชุดโฆษณาจํานวนมากในแคมเปญ คุณอาจพบว่างบประมาณแคมเปญของแต่ละแคมเปญนั้นถูกกระจายออกไปเป็นส่วนเล็กส่วนน้อย นี่อาจช่วยลดโอกาสของการเรียนรู้ถูกจำกัดได้ เมื่อโฆษณาน้อยลง จะทําให้งบประมาณสําหรับโฆษณาแต่ละรายการสูงขึ้นและเพิ่มโอกาสในการรักษาความปลอดภัยให้กับผลลัพธ์ได้ดีขึ้น อีกวิธีหนึ่งคือการเพิ่มงบประมาณเข้าไปในชุดโฆษณานั้นๆ นอกจากนี้การหลีกเลี่ยงการรีเซ็ตในขณะที่ยังอยู่ในระยะการเรียนรู้ อาจช่วยลดปัญหาการซ้ำซ้อนของแคมเปญที่กําลังสร้างอยู่
เมื่อมีคำเตือนดังกล่าวนี้ขึ้นมา ไม่ได้หมายความว่าแคมเปญของคุณรันได้ไม่ดี หากชุดโฆษณาของคุณถูกส่งไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คุณกําหนดไว้ คุณอาจไม่ต้องสนใจมากกับส่วนตรงนี้ แต่ถ้าหากว่าผลลัพธ์มีประสิทธิภาพไม่ดี ก็สามารถพิจารณาทําการปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้
ประโยชน์ของช่วงการเรียนรู้
ประโยชน์หลักของช่วงการเรียนรู้คือช่วยให้มาร์เก็ตติ้ง สร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจากการเรียกใช้แคมเปญโฆษณาบน Facebook เมื่อแคมเปญของคุณได้รับการปรับให้เหมาะสมแล้ว คุณจะสามารถรักษาความปลอดภัย ROI ให้สูงขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยให้การโฆษณาบน Facebook ทํากําไรให้กับธุรกิจของคุณได้มากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ในช่วงการเรียนรู้แคมเปญ แคมเปญอาจจะยังไม่ส่งผลลัพธ์ที่ดีมากนัก และข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาระหว่างนั้นอาจส่งผลแง่บวกได้ในอนาคต

สิ่งที่สําคัญคือความอดทน เมื่อใช้งานแคมเปญโฆษณาบน Facebook ซึ่งอย่าเพิ่งคาดหวังว่าจะได้รับผลลัพธ์ทันที เมื่อชุดโฆษณาผ่านช่วงการเรียนรู้ อาจจะเตรียมใจไว้รอผลลัพธ์หรืออย่างน้อยที่สุดคือพออนุโลมให้มีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเท่านั้น เพราะนี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเริ่มต้นกระบวนการใหม่และยืดเวลารอผลลัพธ์ออกไปอีก โปรดจําไว้ว่า ในตอนท้ายคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ดีขึ้นเกี่ยวกับวิธีการทํางานของชุดโฆษณาและควรปรับให้เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสําหรับแคมเปญของคุณ
ประเด็นสําคัญของช่วงการเรียนรู้บน Facebook
เสร็จสิ้นช่วงการเรียนรู้ – ปล่อยให้ช่วงการเรียนรู้ทํางานจนเสร็จ กระบวนการนี้มักจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วันในการทำงาน หากคุณมีการปรับเปลี่ยนระหว่างนั้น คุณจะเสี่ยงต่อการรีเซ็ตช่วงการเรียนรู้และอาจจะต้องรอนานกว่าเดิม
ทําการเปลี่ยนแปลงเฉพาะเมื่อจําเป็นและเปลี่ยนแบบเล็กน้อย – บางครั้งอาจรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งจําเป็น เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ถ้าเป็นเช่นนั้น ให้พยายามเปลี่ยนแบบเล็กน้อยเท่านั้น เล็กน้อยพอที่จะไม่ส่งผลกระทบกับการทำงานของชุดโฆษณา มิฉะนั้นอาจจะต้องเสียเวลากลับไปเริ่มต้นกระบวนการใหม่ตั้งแต่แรก
ใช้ชุดโฆษณาให้น้อยที่สุด – หลีกเลี่ยงใช้วิธีแสดงโฆษณาด้วยการ เปิดตัวแคมเปญโฆษณามากๆในเวลาเดียวกัน วิธีนี้จะจํากัดข้อมูลและลดประสิทธิภาพ ที่สามารถสร้างให้ชุดโฆษณาแต่ละชุด แนะนำเป็นลองรวมชุดโฆษณาเข้าด้วยกัน แทนที่จะแสดงแคมเปญแยกออกไป
กําหนดงบประมาณที่สมจริง – งบประมาณที่น้อยเกินไปหรือใหญ่เกินไป อาจส่งผลต่อความสามารถของระบบ ที่จะประมาณการจํานวนกลุ่มเป้าหมาย พยายามทำเป้าหมายให้เหมาะสมที่ 50 ผลลัพธ์ และหลีกเลี่ยงการปรับเปลี่ยนงบประมาณของแคมเปญบ่อยครั้ง
ตั้งเป้าตามความเป็นจริง – หากคุณกําลังเริ่มต้นแคมเปญใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยงบประมาณที่ต่ํากว่า ต้องให้แน่ใจว่า คุณกําหนดเป้าหมายผลลัพธ์ที่มีคาดว่าสามารถเกิดขึ้นได้จริง ที่ ฟีนิกซ์ มีเดีย (Phoenix Media) เราขอแนะนําให้กําหนดเป้าหมายกิจกรรมเพิ่มเติมจากช่องทางสําหรับแคมเปญใหม่ ตัวอย่างเช่น ลองกําหนดเป้าหมาย เพิ่มลงในรถเข็นแทนหรือการสั่งซื้อ
หากคุณกําลังมองหาความช่วยเหลือเกี่ยวกับโฆษณาบน Facebook หรือ โฆษณา Instagram หรือต้องการคําปรึกษาฟรีโปรดติดต่อหนึ่งในทีมวันนี้