เมื่ออินเทอร์เน็ตทำให้ตลาดออนไลน์กลายมามีบทบาทสำคัญ ดังนั้น ไม่มีธุรกิจใดที่ไม่อยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์ การแข่งขันที่สูงขึ้นและเต็มไปด้วยธุรกิจหลากหลายประเภท ทำให้บริษัทต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษเพื่อเข้าสู่การแข่งขัน กลยุทธ์ที่ดีและการลงทุนที่เพียงพอเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธุรกิจในการใช้ประโยชน์จากรูปแบบการตลาดนี้อย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์สูงสุด
อย่างที่เรารู้จักกันในนามการตลาดดิจิทัลหรือการตลาดผ่านเว็บ การตลาดออนไลน์ช่วยให้คุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางบนเว็บต่าง ๆ ได้ บริษัทสามารถถ่ายทอดข้อความเกี่ยวกับสินค้า บริการ และแบรนด์ ได้ง่ายขึ้น โดยหวังว่าจะได้รับการเป็นที่รู้จักและขายได้มากขึ้น โดยผสมผสานความคิดสร้างสรรค์และการวัดข้อมูล เพื่อสร้างข้อความในรูปแบบต่าง ๆ และนำเสนอผ่านช่องทางต่าง ๆ ออนไลน์
มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะจำนวนมากที่ธุรกิจส่วนใหญ่ขาดทรัพยากรที่จะเข้าถึงทุกคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่จะมุ่งเน้นการทำการตลาดออนไลน์บนช่องทางและสื่อที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุน เรามาดูกันว่าการตลาดออนไลน์ประเภทหลัก ๆ ที่บริษัทควรพิจารณามีอะไรบ้าง และมันทำงานอย่างไร
ประเภทของการตลาดออนไลน์
Search Engine Optimization (SEO)
ผู้ใช้งานออนไลน์ส่วนใหญ่จะใช้ Search engine เช่น Google เพื่อค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่พวกเขากำลังมองหาอยู่ ดังนั้น ธุรกิจต้องทำให้มั่นใจว่าพวกเขาจะหาเจอได้ง่ายโดยการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของตนตามหลักเกณฑ์ที่เครื่องมือค้นหาแต่ละรายการกำหนด

เว็บไซต์ที่อยู่อันดับต้น ๆ มักจะดึงดูดผู้ใช้มากกว่า โปรดจำไว้ว่าผู้ใช้ออนไลน์ส่วนใหญ่มักไม่ค่อยไปไกลกว่าหน้าแรกของผลการค้นหา นี่คือเหตุผลที่หลาย ๆ ธุรกิจใช้บริการ SEO เพื่อสร้างอันดับให้แพลตฟอร์มและเนื้อหาของพวกเขามีการมองเห็นมากยิ่งขึ้น
เนื้อหาบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ควรได้รับการปรับแต่งหรือปรับให้เหมาะสมเพื่อดึงดูดเครื่องมือค้นหาก่อน เพื่อให้ได้รับการจัดอันดับสูงสุดอย่างที่ต้องการ เป้าหมายหลักของการทำ SEO ก็เพื่อดึงดูดการเข้าชมโดยธรรมชาติ เนื่องจากผู้เข้าชมดังกล่าวมีความตั้งใจที่จะซื้อสูง นอกจากนี้ SEO ยังสามารถแบ่งออกได้อีกหลายแง่มุม ได้แก่ :
- On-page SEO – เป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนเว็บไซต์และวิธีการนำเสนอของธุรกิจ การใส่คีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง/ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไว้ภายในเนื้อหาคือกุญแจสำคัญ เพื่อให้ผู้ใช้ที่กำลังอยากได้ข้อมูล สามารถหาคำตอบได้ง่ายบนเว็บไซต์
- Off-page SEO – เป็นการทำงานที่มุ่งเน้นที่จะนำทราฟฟิกจากแพลตฟอร์มอื่นมายังเว็บไซต์หลัก โดย Backlinks จะถูกสร้างขึ้นภายในเนื้อหาบนแพลตฟอร์มอื่น ๆ ซึ่งเป็นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ธุรกิจต้องการนำเสนอ วัตถุประสงค์ของเนื้อหาควรเพื่อช่วยส่งเสริมการรับรู้ถึงแบรนด์ แบ่งปันข้อมูลที่มีคุณค่า และเชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บที่เกี่ยวข้องบนเว็บไซต์ของธุรกิจ
- SEO ด้านเทคนิค – หมายถึงการทำงานด้านเทคนิคเพิ่มเติมในการสร้างเว็บไซต์ เช่น การเขียนโค้ดและเลย์เอาต์ เพื่อสร้างประสบการณ์บนเว็บไซต์ที่ดีให้กับผู้ใช้ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนไปมาระหว่างหน้าต่าง ๆ และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ยิ่งพวกเขาพอใจกับประสบการณ์บนเว็บไซต์มากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งมีโอกาสกลับมาอีกครั้งและบอกต่อมากขึ้นอีกด้วย
Social Media Marketing (SMM)
ในแต่ละวัน แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้รับการเข้าชมนับพันล้านครั้งจากผู้ใช้ออนไลน์ วันละหลายครั้ง ในฐานะที่เป็นช่องทางออนไลน์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดช่องทางหนึ่ง พวกมันไม่เพียงสร้างโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการแบ่งปันเนื้อหากับกลุ่มเป้าหมาย แต่ยังช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาได้อีกด้วย ช่องทางต่าง ๆ เช่น โฆษณาบน Facebook เป็นวิธีง่ายๆ ในการสร้างผู้ติดตามและนำพวกเขาไปยังเว็บไซต์หลักและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

หากคุณอยากประสบความสำเร็จใน SMM การมีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น ธุรกิจจำนวนมากอาจต้องจ้างผู้จัดการโซเชียลมีเดียที่ไม่เพียงแต่สามารถอัปเดตเนื้อหาได้เท่านั้น แต่ยังติดตามและตอบบทสนทนาได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าจะในบัญชีธุรกิจและในฟีดอื่น ๆ ดังนั้น คุณควรเลือกและมุ่งเน้นไปที่แพลตฟอร์มที่คุณจะพบกลุ่มเป้าหมายของคุณได้มากที่สุด
Search Engine Marketing (SEM)
SEM เป็นคำศัพท์เฉพาะ สำหรับการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหา เช่น Google โดยใช้วิธีการต่าง ๆ ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักในเครื่องมือการค้นหา SEO อยู่ภายใต้ SEM แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณกำลังคุยกับใคร หลาย ๆ คนเชื่อว่า SEM หมายถึงวิธีการทางการตลาดแบบที่ต้องเสียเงินเท่านั้น
ภายใต้ SEM ยังมีหมวดหมู่ย่อยต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง:
- Search Advertising
การโฆษณา Search ads (บางครั้งเรียกว่า PPC) เป็นโฆษณาที่แสดงบนเครื่องมือการค้นหา ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถพบได้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียด้วย คุณจะจ่ายค่าโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาเมื่อมีคนคลิกที่โฆษณาของคุณเท่านั้น ไม่เพียงแต่จะมีค่าใช้จ่ายเพียงไม่กี่บาทต่อคลิก แต่โฆษณา PPC ยังสามารถกำหนดเป้าหมายได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้เป็นการจ่ายเงินที่คุ้มค่า
รูปแบบการโฆษณาบนเครื่องมือการค้นหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Google Ads ซึ่งจะแสดงเป็นโฆษณาแบบต้องจ่ายเงินในผลการค้นหาของ Google และจะช่วยให้คุณก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดของ Google ได้ทันที ไม่เหมือนกับ SEO ที่ต้องใช้เวลาและการลงทุน โฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาจะแสดงตามคีย์เวิร์ดที่คุณเลือก และคุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้ข้อความค้นหาตรงกับคีย์เวิร์ดของคุณมากน้อยเพียงใด

Display Ads
โฆษณา Display Ads หรือโฆษณาแบนเนอร์ ตั้งค่าผ่านแพลตฟอร์ม Google Ads และมีตัวเลือกในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายตามโปรไฟล์หรือความสนใจของผู้ใช้
โฆษณาแบนเนอร์เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการโปรโมตแบรนด์และบริการของคุณด้วยต้นทุนที่ต่ำ เช่นเดียวกับโฆษณา Search ads คุณสามารถเลือกจ่ายได้เมื่อมีผู้คลิกที่แบนเนอร์และเข้าชมหน้าเว็บของคุณ

มีหลายวิธีในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณบนโฆษณา Display ads ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการทาร์เกตในวงกว้างหรือเฉพาะกลุ่ม วิธีหนึ่งในการกำหนดเป้าหมายที่เป็นที่นิยมมาก คือ รีมาร์เก็ตติ้ง รีมาร์เก็ตติ้งทำให้คุณสามารถทาร์เกตผู้ใช้ที่เคยเข้าชมหน้าเว็บหรือแอปพลิเคชันของคุณแล้ว และโดยทั่วไปจะเป็นแคมเปญ/ผู้ชมที่มีประสิทธิภาพสูง
Content Marketing
เป็นการตลาดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาที่สามารถแบ่งปันผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ ของคุณ คุณต้องรู้ว่าเนื้อหาประเภทไหนที่จะดึงดูดและมีคุณค่าต่อกลุ่มเป้าหมายของคุณ จากนั้นพัฒนากลยุทธ์ว่าควรเผยแพร่เมื่อใดและอย่างไร ไม่ว่าจะเผยแพร่ในบล็อกหรือบัญชี Instagram เนื้อหาจะต้องถูกเพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูด Search engine และดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายของคุณ

มีเนื้อหาหลายประเภทที่คุณสามารถสร้างได้ ซึ่งรวมถึง บทความ, อินโฟกราฟิก, แบบฝึกหัด, วิดีโอ, พอดแคสต์, และเนื้อหาแบบยาว เช่น eBook การใช้เนื้อหาเหล่านี้และเนื้อหาประเภทอื่น ๆ ผสมกัน จะช่วยเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มความน่าสนใจให้กับเนื้อหาของคุณ คุณสามารถแชร์เนื้อหาเหล่านี้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีเดียวกันหรือต่างกันในช่องทางของคุณ รวมถึงเว็บไซต์หลัก แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ บล็อก โซเชียลมีเดีย และอื่น ๆ
Email Marketing
ผู้ใช้งานออนไลน์เช็คอีเมลของตนเป็นประจำ ทำให้อีเมลการตลาดเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าได้รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ กิจกรรม โปรโมชั่นและอื่น ๆ เนื้อหาภายในอีเมลควรมีลิงค์ไปยังเว็บไซต์และช่องทางอื่น ๆ ของคุณ สิ่งนี้ทำให้การตลาดผ่านอีเมลเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อีกตัวหนึ่งในการนำทราฟฟิกมาสู่แพลตฟอร์มของคุณมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อสนับสนุนการสมัครรับข่าวสารเพื่อติดตามบนไซต์โซเชียลมีเดีย Email Marketing เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการส่งเสริมธุรกิจและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า
ประโยชน์ของการตลาดออนไลน์
ดังที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงประเภทหลักๆ ของการตลาดออนไลน์ ที่ธุรกิจต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อดึงดูดผู้ใช้ออนไลน์ อาจไม่ใช่รายการอย่างละเอียด ซึ่งในแต่ละประเภทถึงกับมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่สามารถจ้างให้มาดูแลในส่วนต่าง ๆ ได้ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่ แต่ทำไมคุณต้องคำนึงถึงการลงทุนนี้?
ราคาไม่แพง
เมื่อเทียบกับรูปแบบการโฆษณาแบบดั้งเดิม เช่น ป้ายบิลบอร์ด โฆษณาทางทีวีและหนังสือพิมพ์ การตลาดออนไลน์มีค่าใช้จ่ายไม่แพงมาก บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการแข่งขันกันมากขึ้น เนื่องจาก SMEs สามารถใช้มันอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อทำให้สถานะของตนเป็นที่รู้จักในนามองค์กรขนาดใหญ่ ธุรกิจทุกประเภทสามารถลงทุนได้และสามารถสร้างการติดตามที่แข็งแกร่งและการมองเห็นในช่องทางของพวกเขา
ความหลากหลาย
การตลาดออนไลน์รองรับช่องทางการตลาดที่หลากหลายและเนื้อหาที่สามารถแชร์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งแบบไม่ต้องเสียเงินและแบบเสียเงิน ตัวเลือกมากมายเหล่านี้ทำให้ธุรกิจมีโอกาสมากมายในการเข้าหากลุ่มเป้าหมายและตอบสนองความต้องการของพวกเขา ความยืดหยุ่นนี้ทำให้เป็นรูปแบบการตลาดในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับงบประมาณได้ทุกเมื่อ
วัดผลลัพธ์ได้
ประสิทธิภาพของการตลาดประเภทต่าง ๆ เหล่านี้สามารถวัดได้ผ่านการวิเคราะห์ ทำให้ง่ายต่อการกำหนดว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างแท้จริงเพียงใด การติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญช่วยให้ธุรกิจทราบว่าพวกเขากำลังใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่เหมาะสมหรือไม่ และควรพิจารณาเปลี่ยนแปลงอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไปและมีการปรับตัวเลือกให้เหมาะสม พวกเขาจะมีช่องทางและเนื้อหาที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งจะทำให้พวกเขาได้รับผลตอบแทนที่ดี
มุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมาย
รูปแบบการตลาดแบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดมากกว่าในการทาร์เกตผู้ชมที่เฉพาะเจาะจง มักจะเป็นเรื่องยากที่จะรับประกันได้ว่าคนที่เห็นโปรโมชั่นของคุณส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเป้าหมายของคุณหรือไม่ ด้วยการตลาดออนไลน์ การกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่คุณต้องการทำได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถเข้าถึงข้อมูลประชากร เช่น พื้นที่ อายุ เพศ และความสนใจ และด้วยปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง คุณจะสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากขึ้นไปอีกเพื่อปรับแต่งโฆษณาให้ดียิ่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้ธุรกิจสามารถระบุฐานลูกค้าและแปลงมาเป็นยอดขายได้ง่ายขึ้น
โดยรวมแล้ว การตลาดออนไลน์ไม่สามารถทำได้หากไม่มีตลาดออนไลน์อย่างเช่นปัจจุบันนี้ ธุรกิจต้องใช้การตลาดออนไลน์ไม่เพียงแต่เพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์เท่านั้น แต่เพื่อให้สามารถมีส่วนร่วมกับลูกค้าของตนด้วย นอกจากนี้ การตลาดออนไลน์ยังเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายและติดตามว่าแบรนด์เป็นที่รู้จักมากแค่ไหน ตอนนี้การขายผลิตภัณฑ์ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซและแม้แต่โซเชียลมีเดียกลายเป็นสถานที่ที่ดีที่สุด ผู้คนและองค์กรจำนวนมากขึ้นเลือกที่จะซื้อสินค้าจากระยะไกล ซึ่งหมายความว่าการซื้อดังกล่าวได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในการเติบโตของยอดขาย